หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔

อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น

ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเกิดจากระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายย่อยหลาย ๆ เครือข่ายรวมตัวกันเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่โดยอาศัยโครงสร้างระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะ

พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่พัฒนามาจากโครงการอาร์พาเน็ต  (ARPAnet)ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา   คือ มหาวิทยาลัยยูทาห์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ซานตาบาบารมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ลอสแองเจลิส และสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีการใช้ อินเทอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น

อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
อินเทอร์เน็ตเริ่มมีการใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ที่มหาวิยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) โดยมีการเชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๕ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายยูยูเน็ต (UUNET) ที่ตั้งอยู่ที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ใน พ.ศ.๒๕๓๕ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของสถาบันการศึกษาของรัฐ โดยมีชื่อว่า เครือข่ายไทยสาร
ต่อมา พ.ศ. ๒๕๓๗ ความต้องใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ได้มีการบริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ขึ้นเรียกว่า (Internet Service Provider: ISP)

ผู้ให้บริการใช้งานบนระบบอินเทอร์เน็ต
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Service Provider : ISP  คือ หน่วยงานที่บริการให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่าย 
คอมพิวเตอร์ของบริษัท เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอยู่ด้วยกัน ๒ ประเภท คือ
๑.     หน่วยงานราชการหรือสถาบันการศึกษา
๒.    ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ทั่วไป

การกำหนดที่อยู่บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นจะต้องมีการกำหนดที่อยู่เพื่ออ้างอิงถึงคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องซึ่งมีการกำหนดที่อยู่ได้ ๒ รูปแบบ คือ
๑.    การกำหนดที่อยู่แบบไอพี (IP Address) เป็นการกำหนดหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

๒.    การกำหนดที่อยู่แบบดีเอ็นเอส (DNS) การกำหนดที่อยู่ในรูปแบบ (IP Address) นั้นเป็นการยากสำหรับการจดจำ โดยเฉพาะเมื่อต้องการจดจำหมายเลขไอพีเป็นจำนวนมาก จึงมีการแก้ไขโดยกำหนดรูปแบบเป็นตัวหนังสือเพื่อให้สะดวกแก่การจดจำ เรียกว่า ชื่อโดเมน (Domain name) เช่น 202.29.13.28 เมื่อเขียนในรูปแบบชื่อโดเมน คือ “thaicyberu.go.th” ซึ่งง่ายต่อการจดจำมาก ตัวอย่าง








บริการต่างๆบนอินเทอร์เน็ต
   
     เวิลด์ไวด์เว็บ  เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก เรามักเรียกย่อๆ กันว่า เว็บ คือรูปแบบหนึ่งของระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข่าวสาร ใช้ในการค้นหาข้อมูลข่าวสารบน Internet จากแหล่งข้อมูลหนึ่งให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด   WWW จะแสดงผลอยู่ในรูปแบบของเอกสารที่เรียกว่า ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hyper Text) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่รวบรวมข่าวสารข้อมูลที่อยู่กระจัดกระจายในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกให้สามารถนำมาใช้งานได้เสมือนอยู่ในที่เดียวกัน
การที่จะใช้บริการ WWW ได้นั้นจำเป็นจะต้อง มีส่วนประกอบ  ๒  ส่วน คือ
๑.    แหล่งข้อมูล หรือเว็บไซต์ (Web Site) เว็บไซต์ (Web Site) คือ แหล่งที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารและสื่อประสมต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง ข้อความ ของแต่ละบริษัทหรือหน่วยงานโดยเรียกเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ว่า เว็บเพจ (Web Page) และเรียกเว็บหน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ว่า โฮมเพจ (Home Page) หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บไซต์ก็คือเว็บเพจอย่างน้อยสองหน้าที่มีลิงก์ (Links) ถึงกัน ตามหลักคำว่า เว็บไซต์จะใช้สำหรับผู้ที่มีคอมพิวเตอร์แบบเซิร์ฟเวอร์หรือจดทะเบียนเป็นของตนเองเรียบร้อยแล้วเช่น www.google.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลเป็นต้น
๒.    โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูลที่อยู่ในหน้าเว็บเพจ
   
   ตัวอย่างเว็บบราว์เซอร์


ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์  (E-mail) หรือ Electronics Mail เป็นการติดต่อสื่อสารระหว่างกันประเภทหนึ่งคล้ายกับการส่งจดหมายผ่านทางไปรษณีย์ แต่อีเมล์นี้เป็นบริการที่สามารถทำการส่งข้อความ ไฟล์เอกสารของคอมพิวเตอร์ หรือรูปภาพต่างๆ ไปยังผู้รับปลายทาง (ที่ใช้บริการอีเมล์) ได้ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จึงทำให้เพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้น
ส่วนประกอบของอีเมล์แอดเดรส ประกอบด้วย ส่วนสำคัญ ดังตัวอย่างนี้
๑.    ชื่อบัญชีสมาชิกของผู้ใช้เรียกว่า user name อาจใช้ชื่อจริง ชื่อเล่น หรือชื่อองค์กร ก็ได้
๒.    ส่วนนี้ คือ เครื่องหมาย @ ( at sign) อ่านว่า แอท
๓.    ส่วนที่สาม คือ โดเมนเนม (Domain Name) เป็นที่อยู่ของอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ที่เราสมัครเป็นสมาชิกอยู่ เพื่ออ้างถึงเมล์เซิร์ฟเวอร์     เช่น  somchai@hotmail.com

ข้อดีของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ 
                  ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
                  สามารถส่งข้อมูลในรูปแบบที่หลากหลาย
                  ไม่จำกัดเวลา ระยะทาง หรือสถานที่ในการติดต่อสื่อสาร
                  ข้อมูลที่ได้มีความเป็นส่วนตัว
                  ผู้รับสามารถนำข้อมูลที่ได้มาแก้ไขหรือนำข้อมูลนั้นไปใช้ต่อได้
                  มีการแจ้งรายละเอียดและบันทึกข้อมูลได้ตามความต้องการของผู้ใช้

การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล(FTP) การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล(FTP:flie transfer Protocol)เป็นการแลกเปลี่ยนไฟล์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลเรียกว่า FTP  Server กับเครื่องไคลเอนต์ที่ใช้บริการเรียกว่า FTP Client  การโอนย้ายข้อมูลแบ่งเป็น ๒ ลักษณะ คือ
๑.    การดาวโหลด (Download)คือ การโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาบันทึกไว้ที่คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
๒.    การอัพโหลด(Upload)คือการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไปบันทึกไว้ที่เครือข่าย

บล็อก (Blog) คือเว็บไซด์รูปแบบหนึ่ง ที่มีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับการเขียนไดอารี่ หรือ บันทึกส่วนตัว ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน


บล็อก (Blog) ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
-         ทำBlog เป็นเว็บไซด์ส่วนตัว เพื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้อื่นๆ เช่น บันทึกไดอารี่ 
-         เขียนBlog เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ นำเสนอสิ่งที่ตนเองรู้ หรือสิ่งที่ตนเองสนใจ เพื่อแบ่งปันให้กับผู้อื่น
-         สร้างBlog ทำเป็นเว็บไซด์เพื่อใช้ในการนำเสนอธุรกิจ ร้านค้า บริการต่างๆ
-         ใช้Blog ในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce)
-         นอกจากนี้ Blog ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่นิยมใช้กับเพื่อหารายได้จาก Internet Marketing


การสืบค้นข้อมูลและเรียกใช้โปรแกรมค้นข้อมูล (Search Engine) เป็นเครื่องมือหรือโปรแกรมในการค้นหาเว็บต่างๆ โดยมีการเก็บ รายชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของเว็บไซต์และนำมาจัดเก็บไว้ใน server เพื่อให้สามารถค้นหาและแสดงผลได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เช่น sanook.com, google.com, yahoo.com, เป็นต้น เพียงพิมพ์คำที่เราต้องการค้นหา หรือที่เราเรียกว่า Key Word และกดปุ่ม Search 

ประโยชน์ที่ได้รับจาก (Search Engine)
                  ค้นหาเว็บที่ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว
                  สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข่าว, MP3 และอื่นๆ อีกมากมาย
                  สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทาง ที่มีการจัดทำไว้ เช่น download.com เว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลและซอร์ฟแวร์ เป็นต้น
                  มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล
                  รองรับการค้นหา ภาษาไทย
                  หน่วยงานที่ให้บริการฐานข้อมูลออนไลน์
                  ระบบสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด (Web OPAC)
                  ฐานข้อมูล Thai Digital Collection (TDC) ของ ThaiLIS
                  ฐานข้อมูลสำนักงานหอสมุดแห่งชาติ

การสนทนาบนเครือข่าย (Chat) โปรแกรมที่ถูกสร้างมาเพื่อการสนทนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยการพิมพ์ข้อความผ่านคีย์บอร์ดขึ้นสู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งจะมีชื่อของผู้เล่นและข้อความแสดงขึ้นในหน้าต่างภายในจอคอมพิวเตอร์ของโปรแกรมสนทนา ให้คนอื่น ๆ ที่ร่วมสนทนาในห้องสนทนา (chat room) นั้น ๆ ได้เห็นว่า ผู้เล่นสนทนาคนอื่น ๆ สามารถเข้าสนทนาได้


อินเทอร์เน็ตกับผลกระทบต่อสังคมไทย

ผลกระทบด้านบวก 
-         เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลิต ชีวิตคนในสังคมได้รับความสะดวกสบาย
-         เป็นสังคมโลกแห่งการสื่อสารเกิดขึ้น
-         เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านที่เกี่ยวกับ สาธารณสุขและการแพทย์
-         เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ
-         พัฒนาคุณภาพการศึกษา
-         การทำงานเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
-         ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการบริโภคสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพดีขึ้น

  ผลกระทบด้านลบ 
-         ก่อให้เกิดความเครียดในสังคมมากขึ้น
-         ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม หรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของคนในสังคมโลก
-         ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอารมณ์และจิตใจของเยาวชน
-         ก่อให้เกิดผลด้านศีลธรรม 
-         การมีส่วนร่วมของคนในสังคมลดน้อยลง
-         การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
-         เกิดช่องว่างทางสังคม
-         อาชญากรรมบนเครือข่าย
-         ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ


บัญญัติ 10 ประการ ของการใช้อินเทอร์เน็ต
๑.     ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
๒.     ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
๓.     ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
๔.     ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
๕.     ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
๖.     ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
๗.     ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
๘.     ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
๙.     ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทำของท่าน
๑๐.  ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบกติกาและมีมารยา



วีดีโอเพิ่มเติมอินเทอร์เน็ต









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น